เขาก็เหมือนนักศึกษาค้นคว้าคนอื่นๆ ที่ทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับงานที่รักอย่างยอมตายถวายชีวิต ซึ่งบางคนกว่าชาวโลกจะบังเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในผลงานของเขา ก็ต้องล้มตายไปเสียก่อน คนๆนั้นถึงจะ “ดัง” เรื่องของคนดีมีประโยชน์ มักจะเริ่มมาจากเด็กข้างถนน ลูกชาวนาที่ยากจน บางคนถ้าพูดแบบเขาก็เหมือนนักศึกษาค้นคว้าคนอื่นๆ ที่ทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับงานที่รักอย่างยอมตายถวายชีวิต ซึ่งบางคนกว่าชาวโลกไทยๆ กอ ขอ กอกา ไม่กระดิกหู แต่ก็เอาดีจนได้ และดีจนไม่อาจจะตามทันได้
สำหรับจอห์น เรย์ เขาเป็นนักธรรมชาติวิทยามีความเชี่ยวชาญในสิ่งที่มีชีวิต ไม่ว่าพืชหรือสัตว์จนได้ รับกายกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งพฤกษศาสตร์” อย่างนี้ก็แปลว่า เขาหลับตามองเห็นพืชทุกชนิด
เขาเป็นคนอังกฤษ เกิดเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1628 (พ.ศ.2127) ใกล้เบรนทรี เอสเซกซ์ พ่อเป็นช่างตีเหล็ก แต่ก็ส่งเสียลูกชายจนถึงขั้นจบมหาวิทยาลัย คือจบ เคมบริดจ์
เขาเกิดก่อนชาลส์ โรเบิร์น ดาร์วิน ผู้วางทฤษฎีแห่งการพัฒนาธรรมชาติ ซึ่งเป็นนักธรรมชาติวิทยาชาติเดียวกับเขา เมื่อเขาเป็นผู้ริเริ่มงานทางด้านธรรมชาติ เขาจึงได้รับการยกย่องจากคนรุ่นหลัง ซึ่งได้อาศัยการริเริ่มของเขาเป็นบรรทัดฐานศึกษาค้นคว้าหาสิ่งใหม่ๆและความก้าวหน้าในวิชาแขนงนี้
จอห์น เรย์ ได้ทุ่มเทวิชาความรู้ และความสนใจต่อเรื่องราวของธรรมชาติจนมีผลงานดีเด่น และได้เข้าร่วมสมาชิก F.R.S. และในปี ค.ศ.1667 สมาคมทางพฤกษศาสตร์ และสัตววิทยาได้เอาชื่อของเขาไปตั้งเป็นอนุสรณ์คือ “The Ray Society”
ต่อมาในปี ค.ศ.1682 เขาได้จำแนกพืชต่างๆและได้ตั้งชื่อกำกับพืชที่เขาจำแนกแยกนั้นไปด้วย และผลงานอันนี้ของเขาแหละที่ทำให้จอห์น เรย์ ได้รับเกียรติอย่างสูงเป็น “บิดาแห่งพฤกษศาสตร์” เขาถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ.1705 (พ.ศ.2248) รวมอายุได้ 77 ปี